จริงหรือไม่ ใช่หรือมั่ว ชำแหละ 7 ความเชื่อขณะตั้งครรภ์
ปัจจุบันถึงแม้วิทยาศาสตร์จะพัฒนาไปไกลมากมายแค่ไหน แต่ก็ยังมีความเชื่อต่าง ๆ
มากมายเกี่ยวกับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ว่าควรหรือไม่ทำอะไรที่ยังมีให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน
จนอาจทำให้คุณแม่หลาย ๆ คนเกิดความสงสัยว่าตกลงแล้วความเชื่อเหล่านั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่
และถ้าเกิดทำตามความเชื่อนั้นไปแล้วจะเกิดผลเสียอะไรกับลูกในครรภ์
จริงหรือมั่ว ความเชื่อระหว่างตั้งครรภ์
ในประเทศไทยก็มีความเชื่อทั้งทางด้านอาหาร และการใช้ชีวิตต่าง ๆ มากมาย
แต่วันนี้เราจะมาดูกันว่าความเชื่อทางด้านอาหารนั้นถูกหรือผิด และควรทำตามหรือไม่
1. ต้องกินเพิ่มเป็นสองเท่าเมื่อตั้งครรภ์
ไม่จริง เนื่องจากความจริงแล้วเมื่อตั้งครรภ์คุณแม่ไม่ได้จำเป็นจะต้องกินอาหารมากถึง 2 เท่าจากปกติ
แต่กินเพิ่มขึ้นเพียงวันละ 300 – 500 กิโลแคลอรีก็เพียงพอแล้ว และยังมีความต้องการสารอาหารอื่น ๆ เพิ่มขึ้น
เช่น ธาตุเหล็ก โฟแลท และแคลเซียม เป็นต้น ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
อีกทั้งการกินอาหารในปริมาณ 2 เท่านั้นจะทำให้คุณแม่มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมากอย่างไม่จำเป็น
และอาจเป็นอันตรายต่อตัวคุณแม่และลูกในท้องได้ในอนาคต
2. คุณแม่ห้ามดื่มนมวัว เพราะลูกจะแพ้นมวัวหลังคลอด
ไม่จริง เพราะจากการศึกษาในปี 2016 ในคุณแม่ที่ดื่มนมในปริมาณ 800 มิลลิลิตร หรือ 4 แก้วต่อวัน
ช่วยลดความเสี่ยงที่ลูกหลังคลอดจะมีอาการแพ้นมวัวมากกว่าคุณแม่ที่ดื่มที่ไม่ดื่มนมในขณะตั้งครรภ์
แต่การให้ทารกก่อนขวบปีแรกดื่มนมวัวแทนการดื่มนมจากคุณแม่ จะเพิ่มความเสี่ยงการแพ้นมวัวได้
3. คนท้องห้ามกินอาหารหมักดองเพราะไม่สะอาดและสารเคมีมากมาย
จริง เพราะว่าในของหมักดองที่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด อาจจะมีการเตรียมที่ไม่สะอาด
ทำให้อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อก่อโรค คือ คลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์ (Clostridium perfringens)
ซึ่งเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ รวมไปถึงมีการเติมสารต่าง ๆ เช่น บอแร็กซ์ สารกันบูด เป็นต้น
อีกทั้งยังมีรสชาติเค็มที่เพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจและหลอดเลือดในคุณแม่
รวมไปถึงอาจส่งผลกระทบต่อลูกได้ในระยะยาวได้ อีกทั้ง
4. กรดโฟลิกควรเสริมตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์
จริง เพราะว่ากรดโฟลิกนั้นเป็นสารสำคัญที่ใช้ในการสร้างหลอดประสาทของทารก ในช่วง 1 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
คุณแม่ก่อนตั้งครรภ์จึงจำเป็นต้องได้รับการเสริมกรดโฟลิกก่อนที่จะตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะหลอดประสาทไม่ปิดตัว
(neural tube defect) ดังนั้นก่อนการตั้งครรภ์ควรเข้าพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและทำการวางแผนการตั้งครรภ์
5. ห้ามกินกาแฟเพราะอันตรายต่อลูกในท้อง
จริง เพราะว่าหากคุณแม่ตั้งครรภ์ทำการดื่มกาแฟ สารในกาแฟที่มีชื่อว่า คาแฟอีน จะส่งผ่านรกจากคุณแม่ไปสู่ลูก
และอาจทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด ลูกมีน้ำหนักแรกเกิดที่น้อยกว่าเกณฑ์ รวมไปถึงความเสี่ยงที่จะแท้งลูกได้เลย
6. ไม่อยากให้ลูกผิวดำ ตอนท้องต้องห้ามกินของดำ
ไม่จริง เพราะว่าสีผิวเกิดขึ้นจากทางพันธุกรรม โดยที่สีผิวจะเข้มหรืออ่อนนั้นเกิดจาก
การทำงานของเซลล์เม็ดสี (Melanin) ไม่ใช่เกิดการกินอาหารที่มีสีเข้มขณะตั้งครรภ์
7. ดื่มน้ำมะพร้าวขณะท้อง ระวังจะแท้งลูก
ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ว่าการดื่มน้ำมะพร้าวขณะท้องจะทำให้แท้งบุตร ดังนั้นหากคุณแม่อยากจะดื่มน้ำมะพร้าว
ก็ไม่ควรดื่มในปริมาณที่มากจนเกินไปเพราะในน้ำมะพร้าวก็ยังมีน้ำตาลอยู่ที่อาจเป็นผลก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ แทน
จะเห็นได้ว่าความจริงแล้วบางความเชื่อบางอย่างก็ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์และสามารถนำมาใช้ได้จริง
เช่น ห้ามกินของดอง ห้ามกินกาแฟ หรือการเสริมกรดโฟลิกตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ เป็นต้น
แต่ทางที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพคือการที่คุณแม่ปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์ หมั่นดูแลสุขภาพ กินอาหารที่มีประโยชน์
และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และคอยหลีกเลี่ยงการดื่มสุรา การสูบบุหรี่ เพียงเท่านี้ลูกน้อยในท้องก็จะเติบโตอย่างแข็งแรง