แนวทางการกินอาหารสำหรับคุณแม่ให้นมเพื่อให้ สามารถผลิตน้ำนมเพียงพอสำหรับลูก
การให้นมลูกถือเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ที่สำคัญของคุณแม่
เนื่องจากน้ำนมของคุณแม่เป็นแหล่งอาหารหลักของทารก
ดังนั้นน้ำนมแม่จึงสำคัญเป็นอย่างมากต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อย
ด้วยเหตุนี้คุณแม่จึงจำเป็นต้องใส่ใจในการกินอาหารเพื่อให้น้ำนมมีคุณภาพดีที่สุด
ทำไมคุณแม่ให้นมลูกต้องกินอาหารเพิ่ม ?
เนื่องด้วยคุณแม่ต้องใช้พลังงานและสารอาหารที่คุณแม่กินเข้าไปหรือสะสมไว้ในร่างมาผลิตเป็นน้ำนมให้ลูกน้อย
จึงทำให้คุณแม่ต้องได้รับพลังงานและสารอาหารที่มากขึ้นกว่าปกติเพื่อใช้ในการผลิตน้ำนม
รวมไปถึงต้องนำไปซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกายคุณแม่ให้สมบูรณ์แข็งแรงพร้อมที่จะผลิตน้ำนมอีกด้วย
คุณแม่ให้นมลูกต้องกินเท่าไหร่ ?
สำหรับคุณแม่ที่ให้นมลูก จะมีความต้องการทางด้านโภชนาการที่มากกว่าคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นพลังงาน โปรตีน
หรือสารอาหารชนิดอื่น ๆ โดยพลังงานและโปรตีนที่คุณแม่ต้องนั้นเพิ่มขึ้นจากปกติ 300 - 500 กิโลแคลอรี
และ 13 - 19 กรัมตามลำดับ ซึ่งจะแบ่งเป็นสัดส่วนของอาหารที่คุณแม่ให้นมลูกที่ควรกินเพิ่ม ดังนี้
หรือเลือกกินโยเกิร์ต 1 ถ้วยครึ่งเพื่อแทนนม 1 แก้ว โดยเลือกเป็นนมจืด หรือโยเกิร์ตรสธรรมชาติ
แต่ต้องเลือกใช้น้ำมันพืชตามความเหมาะสม เช่น การผัดใช้น้ำมันถั่วเหลือง หรือน้ำมันรำข้าว เป็นต้น
และคุณแม่สามารถเลือกกินผักได้ทุกชนิด โดยเน้นไปที่การกินผักใบเขียวเป็นหลักเพราะเป็นแหล่งของธาตุเหล็กนั่นเอง
ตัวอย่างผลไม้ 1 ส่วน เช่น กล้วยน้ำว้า 1 ผล ส้มเขียวหวาน 2 ผลกลาง
แก้วมังกร ½ ผล มะละกอสุก 8 ชิ้นพอดีคำ และสับปะรด 8 ชิ้นพอดีคำ เป็นต้น
โดยคุณสามารถเลือกทานสลับกันตามความชอบได้เลย แต่ต้องระมัดระวังถึงความสะอาดด้วย
โดยควรกินเป็นเนื้อปลา 4 ช้อนโต๊ะสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ตับ 4 ช้อนโต๊ะสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง และกินไข่วันละ 1 ฟอง
ดังนั้นคุณแม่ให้นมลูกเพียงเลือกกินอาหารในแต่ละหมวดให้มีปริมาณมากขึ้น 1 – 2 ส่วนจากเดิม
ส่วนหมวดข้าว – แป้งให้กินตามปกติ ก็จะทำให้คุณแม่ได้รับพลังงานเพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นแล้ว
และอย่าลืมกินยาเสริมธาตุเหล็กและกรดโฟลิก เดินออกกำลังกาย แปรงฟันในตอนเช้าและก่อนนอน และพักผ่อนให้เพียงพอ
รวมไปถึงเลี่ยง ชา กาแฟ อาหารหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ เพื่อร่างกายที่แข็งแรงของคุณแม่จะได้
ผลิตน้ำนมที่จะส่งต่อสารอาหารที่ครบถ้วนผ่านน้ำนมไปสู่ลูกนั่นเอง