การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น อาจจะส่งผลกระทบในหลาย ๆ ด้าน
ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย จิตใจ เศรษฐกิจ และสังคมของตนเองและครอบครัว
นอกเหนือจากนั้นแล้ว ยังอาจเกิดความเสี่ยงเกี่ยวกับสุขภาพของแม่และลูกได้อีกด้วย
โดยมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการตั้งครรภ์ตอนวัยรุ่น ดังนี้
การคลอดก่อนกำหนดสามารถพบได้บ่อยในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ตอนวัยรุ่น
จากการศึกษาวิจัยที่ตีพิมพ์ลงใน British Medical Journal เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2014
เปิดเผยว่า การคลอดก่อนกำหนดพบได้ในแม่ท้องที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี
มากกว่าในแม่ท้องที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และจากอีกหลาย ๆ รายงานพบว่า
ยิ่งคุณแม่อายุน้อยมากเท่าไหร่ โอกาสคลอดก่อนกำหนดจะยิ่งสูงขึ้น โดยเกิดจากหลายสาเหตุ
ส่วนหนึ่งเชื่อว่าเกิดจากการเจริญเติบโตที่ไม่เต็มที่ของร่างกายวัยรุ่น
การศึกษา การดำรงชีวิตและสภาพแวดล้อม การใช้ยาหรือสารเสพติด
หรือแม้กระทั่งขาดการดูแลในระยะก่อนคลอดที่เหมาะสม
การมีลูกตั้งแต่อายุยังน้อยมีความเสี่ยงที่จะทำให้คุณแม่
เกิดอาการซึมเศร้าหลังคลอดมากเป็นสองเท่า
โดยอาการซึมเศร้าหลังคลอดนั้นเกิดขึ้นได้ทุกช่วงหลังคลอด
รวมถึงมีปัญหานอนไม่หลับและเป็นกังวลร่วมด้วย
ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุยังน้อยมีโอกาสที่จะคลอดลูกออกมามีน้ำหนักตัวน้อย
โดยภาวะนี้อาจจะเป็นผลต่อเนื่องมาจากการคลอดก่อนกำหนด
จากการศึกษาวิจัยเมื่อเดือนเมษายนปี 2007 ที่ได้ตีพิมพ์ลงใน
International Journal of Epidemiology เปิดเผยว่า
แม่ท้องที่มีอายุในช่วงต่ำกว่า 19 ปีลงมา มีโอกาสที่จะคลอดลูกออกมามีน้ำหนักตัวน้อยกว่า
แม่ท้องที่มีอายุระหว่าง 20 – 24 ปี อยู่ถึง 14 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
อีกทั้งทารกที่มีน้ำหนักตัวน้อยยังมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับปอด หัวใจ และสมองได้อีกด้วย
ภาวะโลหิตจางเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยกับแม่ที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะขาดสารอาหาร โดยเฉพาะขาดธาตุเหล็ก
กรดโฟลิก รวมถึงการมีพยาธิในลำไส้
ภาวะโลหิตจางในระหว่างตั้งครรภ์ส่งผลเสียต่อทั้งคุณแม่และลูกในท้อง
และยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด
ทำให้คุณแม่คลอดยากและอาจส่งผลต่อพัฒนาการของทารกในขณะที่อยู่ในครรภ์อีกด้วย
ไม่ใช่ว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่วัยรุ่นจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพเสมอไป
แต่ความเสี่ยงที่จะมีเกิดขึ้นนั้นมีค่อนข้างสูง
การลดภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นในการตั้งครรภ์
สามารถทำได้โดยการดูแลในช่วงฝากครรภ์ให้ดี
ดังนั้นควรดูแลสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงอยู่เสมอ
และควรเข้ารับการปรึกษาและขอคำแนะนำจากคุณหมอ
เพื่อประโยชน์ต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อย